📚 เตรียมความพร้อมให้ลูกน้อยวัย 2–5 ปี ก้าวสู่รั้วโรงเรียนอย่างมั่นใจ "เรียนรู้ผ่านการเล่น" อย่างมีคุณภาพ

Kannapat Chotsittiwat., OTRL
3 วันที่ผ่านมา
ยาว 2 นาที

Authorized by ครูรัน / OTRL

Perspective OT : มุมมองนักกิจกรรมบำบัด

ทำไม "การเตรียมความพร้อม" จึงสำคัญในวัยก่อนเข้าโรงเรียน?

วัย 2–5 ปี คือช่วงเวลาทองของการพัฒนาสมองและทักษะพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในชีวิตเด็ก งานวิจัยพบว่า 90% ของการพัฒนาสมองเกิดขึ้นก่อนอายุ 5 ปี (Center on the Developing Child, Harvard University, 2023) ซึ่งช่วงวัยนี้ เด็กจะเริ่มเรียนรู้การควบคุมอารมณ์ การใช้ภาษา การเข้าสังคม และการแก้ปัญหา — เป็นรากฐานของ “การเรียนรู้ตลอดชีวิต”

แต่การไปโรงเรียนไม่ใช่แค่การอ่านออกเขียนได้เท่านั้น เด็กต้องพร้อมทั้ง “ร่างกาย จิตใจ การเข้าสังคม และการควบคุมอารมณ์ตามสถานการณ์” เพื่อสามารถเรียนรู้และปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่ได้อย่างมั่นคง และหลากหลาย

คอร์สเตรียมความพร้อมของ Per Kids Center คืออะไร?

Per Kids Center ออกแบบคอร์ส “เตรียมทักษะเด็กวัย 2–5 ปี” โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านกิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy) และนักผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการทั้ง 5 ด้านหลัก ได้แก่:

🧠 ทักษะทางความคิด (Cognitive Function Skills)

* เสริมสร้างสมาธิ ความจำ การแก้ปัญหา และการเข้าใจเหตุผล ผ่านกิจกรรมกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการรับรู้ทางสายตา (Visual Perception)

* ฝึกวางแผน ลำดับขั้นตอน และการควบคุมตนเอง ตามทักษะทางความคิดขั้นสูง (Executive Function Skills) เพื่อการสร้างความมั่นคงทางด้านอารมณ์

🗣️ ทักษะภาษาและการสื่อสาร (Language & Communication)

* กระตุ้นการพูด ฟัง เข้าใจภาษา และการใช้คำอย่างเหมาะสม ตามสถานการณ์

* พัฒนา “ทักษะสังคม” เช่น การรอคิว ขอความช่วยเหลือ หรือเล่นร่วมกับเพื่อน

👫 ทักษะสังคมและอารมณ์ (Social-Emotional Skills)

* ฝึกการเข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น

* ส่งเสริมความมั่นใจ กล้าคิด กล้าแสดงออก

* สร้างวินัยเชิงบวกผ่านกิจกรรมกลุ่ม

🖐️ ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ (Gross and Fine Motor Skills)

* เตรียมความพร้อมสำหรับทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก ทักษะการใช้กรรไกร ART&Craft และการเขียน

* เสริมพัฒนาด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ การการวางแผนการเคลื่อนไหว การทรงตัว และกิจกรรมฐานการเคลื่อนไหว (Obstacle Course)

🎨 การเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-Based Learning)

* สร้างพื้นที่ให้เด็ก “ลองผิดลองถูก” ค้นหาความถนัด ความชอบ และจินตนาการ ผ่านกิจกรรม Sensory Play ภายใต้การสังเคราะห์กิจกรรมจาก Sensory Integration (SI)

* พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม และความยืดหยุ่นทางความคิด

เด็กจะได้อะไรจากคอร์สนี้?

✔️ ความพร้อมรอบด้านสำหรับการเข้าโรงเรียนอนุบาล (Kindergarten) และทักษะวิชาการที่จำเป็น

✔️ พฤติกรรมการเรียนรู้ที่จำเป็น เช่น การฟังคำสั่ง เข้าใจขั้นตอนการเล่น การรอคอยตามกติกา

✔️ เตรียมความพร้อมพื้นฐานสู่ขั้นสูง EF และเสริมสร้างทักษะชีวิตที่แข็งแรงมั่นคง

✔️ โอกาสในการค้นหาความถนัด ค้นหาตัวตนเฉพาะตัวของลูก จุดแข็ง และจุดอ่อนที่ควรส่งเสริม

✔️ รายงานพัฒนาการรายบุคคล โดยนักกิจกรรมบำบัด

จุดเด่นกิจกรรมที่นักกิจกรรมบำบัด (Occupational Therapist) ใช้ส่งเสริมพัฒนาการเด็กในแต่ละด้านคือเน้น “เล่นเพื่อฝึกใช้ร่างกาย จิตใจ และทักษะชีวิตจริง”

🧠 ทักษะทางความคิด (Cognitive Function Skills)

กิจกรรม: “ล่าสมบัติในห้องกิจกรรม”

เด็กจะได้รับแผนที่หรือคำใบ้ (ปรับความยากตามช่วงวัย) เพื่อค้นหาวัตถุที่ซ่อนไว้
ฝึกทักษะ Executive Functions (EF); การวางแผน ลำดับเหตุการณ์ ความจำใช้งาน (Working Memory) และการสังเกต (Self-Monotiring)
นักกิจกรรมบำบัดจะสอดแทรก และสร้างความท้าทาย เช่น การสลับลำดับ/เพิ่มตัวหลอก

🔍 : เราไม่ได้แค่สอนจับคู่หาของ แต่สร้างสถานการณ์ให้เด็ก คิด และ ลงมือทำ ด้วยตัวเอง

🗣️ ทักษะภาษาและการสื่อสาร (Language & Communication)

กิจกรรม: “กล่องคำพูดวิเศษ” (Magic Talking Box)

เด็กสุ่มหยิบของจากกล่อง แล้วต้องอธิบายรายละเอียดให้เพื่อนทายจากลักษณะของที่หยิบได้
ส่งเสริมการเรียบเรียงประโยค การใช้คำบุพบท และน้ำเสียงในการอธิบาย
มีการสะท้อนคิดกลับโดยนักกิจจกรรมบำบัด เช่น การสอนโครงสร้างประโยคแบบธรรมชาติ

🗨️ : ไม่ใช่แค่พูดตามครู แต่เด็กต้องได้ ฝึกคิด พูด ฟัง และโต้ตอบจริง ในสถานการณ์ที่หลากหลาย

👫 ทักษะสังคมและอารมณ์ (Social-Emotional Skills)

กิจกรรม: “เกมลูกเต๋าอารมณ์” (Emotion Dice Game)

ลูกเต๋ามีภาพอารมณ์ต่างๆ เมื่อเด็กทอยได้ จะเล่าเหตุการณ์ที่เคยรู้สึกเช่นนั้น ตามทฤษฎีและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ The Zone of Regulation
ฝึกการรู้จักและจัดการอารมณ์ตัวเอง (Self-Regulation) ในสถานการณ์จำลองที่เสี่ยงทายได้ ใช้ร่วมกับการเล่นกลุ่ม เพื่อฝึกการรอคิว การเห็นใจผู้อื่น (Empathy)

❤️ : เราไม่เพียงแต่ “สอนว่าอารมณ์คืออะไร” แต่ช่วยเด็ก เรียนรู้ผ่านสถานการณ์จำลอง และสถานการณ์ที่สัมผัสได้จริง

🖐️ ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ (Gross and Fine Motor Skills)

กิจกรรม: “สถานีป่าใหญ่” (Jungle Obstacle Course)

ปีน ข้าม คลาน ผ่านอุปสรรคจำลอง (บล็อก หมอน เชือก ฯลฯ)
รวมการเดินทรงตัว การควบคุมแรง การหมุนตัว ฯลฯ
เสริม Fine Motor ในระหว่างการผ่านแต่ละด่าน เช่น ตัดกิ่งไม้ ติดกระดุม/รูดซิป ผูกเชือกสัตว์ป่า

🏃 : OT จะ ออกแบบตามระดับพัฒนาการ และ ให้เด็กเลือกวิธีผ่านด่านเอง เพื่อฝึกการวางแผนการเคลื่อนไหว การควบคุมการทรงตัว และจัดระเบียบร่างกายตนเอง

🎨 การเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-Based Learning)

กิจกรรม: “ร้านขายของหนู” (Mini Market Role Play)

เด็กเลือกบทบาท เช่น แม่ค้า คนซื้อ บัญชี ฯลฯ
ฝึกการคิดสร้างสรรค์ ใช้ภาษา คณิตศาสตร์พื้นฐาน และทักษะทางสังคม
นักกิจกรรมบำบัดจะแทรกการปรับสิ่งแวดล้อม เช่น จำนวนเหรียญที่หลากหลาย ป้ายราคาที่ระบุสร้างความแตกต่างเพื่อกระตุ้นการคิด

🛒 : เราใช้ “สถานการณ์จำลองในชีวิตจริง” เพื่อให้เด็กฝึกใช้ทักษะแบบองค์รวม และค้นหาความถนัดผ่านบทบาทต่างๆ ในกิจกรรมที่หลากหลาย